สองพันสิบแปดคงเป็นปีที่มีอะไรผ่านมาเยอะเหมือนกัน สุขและทุกข์ย่อมปนเปกันไป หลายอย่างยังฝังติดชัดในใจ แต่กระนั้นก็มีหลายอย่างที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดได้
ตัวเอง
ช่างแม่งเหอะพี่… ช่างแม่งบ้าง
น้องที่ internship คนนึง
- เรารู้สึกมีหลายอย่างในตัวเองที่เปลี่ยนไป จะบอกว่าโตขึ้นก็ได้มั้ง?
- ที่บอกว่ารู้สึกตัวเองโตขึ้น คงเพราะเราเกลียดตัวเองมากขึ้น
- มีคนบอกว่าอย่าโตไปเป็นผู้ใหญ่แบบที่เราเกลียด, แต่ไม่รู้สิ ทำไมเรารู้สึกมีมุมของเราที่ถ้าตัวเองตอนปีสองปีก่อนมาเห็นแล้วจะผิดหวังอยู่ในนั้น
- การโตขึ้นคือการยอมรับโลกอันเป็นสังคมไม่อุดมคติหรือเปล่า?
- ถ้าใช่ ความเย็นชาต่อโลกอันไม่อุดมคติ การเข้าสู่สภาวะยอมรับ (acceptance) ก็ใช่สิ่งที่ทำให้เรา “เกลียด” ตัวเองหรือเปล่า? ความฝันและความเชื่อที่ถูกสภาวะยอมรับดังกล่าวกดทับยังมีอยู่ไหม?
- เย็นชามากขึ้น ใส่ใจคนอื่นน้อยลง?
- ปีที่ผ่านมาเหมือนเรียนรู้ที่จะช่างแม่งกับอะไรหลายๆ อย่างมากขึ้น
- สำหรับเราการเลือกให้น้ำหนักที่จะช่างแม่งหรือเก็บเรื่องของคนอื่น กับการใส่ใจเรื่องของคนอื่น เป็น tradeoffs ที่น่าสนใจ เรามีความทุกข์
- หรือพอโตไปจะหัดเพิกเฉย (ignore) ต่อเรื่องราวของคนอื่นได้มากขึ้นเอง?
- มีนิสัยเสียหลายอย่างที่งอกเงยมา
- ยังคงใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ปากกาเนี่ยแหละตัวดี
- ใช้จ่ายได้แหละถ้าบริหารเงินไปออมและลงทุนได้ดีกว่านี้
- กินแพงขึ้นนี่ไม่อยากนับว่าสุรุ่ยสุร่าย จริงๆ คืออยากกินให้แพงขึ้นด้วยซ้ำ
- เรามองว่าการกินคือการศึกษาวัฒนธรรม และอยากเข้าถึงความหลากหลายให้มากกว่านี้
- จริงๆ ที่รู้สึกว่ากินแพงขึ้นเพราะการกระจายเพิ่มขึ้น (กินร้านถูกลง และแพงขึ้นมากตามไป)
- เรามองว่าการกินคือการศึกษาวัฒนธรรม และอยากเข้าถึงความหลากหลายให้มากกว่านี้
- ยังคงใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย ปากกาเนี่ยแหละตัวดี
- มีหลายอย่างที่อยากทำแล้วทำได้
- ได้ไปคอนเสิร์ต BNK48 กับมิ้น ชีวิตนี้คิดว่าคงไม่สามารถลากสังขารไปแบบนี้ได้อีกแล้ว
- การไปคอนเสิร์ตแบบนี้ ต่อให้แก่แค่ไหนก็แนะนำว่า once in a while, มันคือชีวิตวัยรุ่นสักครั้งของคุณว่ะ
- ร่วมกับคุณแพคทำไรท์ติ้งอินไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม หวังว่าจะได้อะไรใหม่ๆ มากขึ้น (และได้ฝึกเขียนภาษาคนให้รู้เรื่องสักที)
- นอกจากนั้นแล้วปีนี้ได้หาที่ฝึกงาน, ซื้อกล้องใหม่, กินเยอะเหมือนเดิม, ร้องไห้น้อยลง (นี่ขนาดน้อยลงแล้วนะ!)
- ได้ไปคอนเสิร์ต BNK48 กับมิ้น ชีวิตนี้คิดว่าคงไม่สามารถลากสังขารไปแบบนี้ได้อีกแล้ว
- และมีหลายอย่างที่ทำไม่ได้
- อ่านหนังสือให้เยอะขึ้น, เล่นมือถือให้น้อยลง
- มีหลายอย่างที่เพิ่มมา
- เพื่อนที่สนิทมากขึ้น, บางครั้งก็รู้สึกได้ทำในสิ่งที่อยากทำได้กล้าขึ้น
- และมีหลายอย่างที่หายไป
- ถึงจะไม่มีคนโคจรจากชีวิต แต่เหมือนเศษเสี้ยวของตัวเองหล่นหายไปในระหว่างทาง
- ยังเป็นศิระกรคนเดิมไหม? คนที่กล้าออกไปทำอะไรไหม? คนที่รู้สึกว่าความผิดพลาดมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น? คนที่พร้อม embrace ความหลากหลาย ความแตกต่าง พร้อมเข้าใจในความเป็นไปของหลายๆ สิ่งไหม?
- สรุปพอมาอ่านแล้วก็เหมือนว่า 2018 เป็นปีที่ชีวิตตัวเองเหมือนจะเลวร้ายลงไปเสียอย่างนั้น
- แต่ในความเลวร้ายนั้นก็เหมือนมีอะไรที่ยังเป็นเราอยู่ ก็หวังว่าจะสามารถเป็นตัวเองที่อยากเป็นได้มากกว่านี้
งานและการเรียน
- ช่วงปีสองพันสิบแปดเป็นปีที่เห็นอนาคตของตัวเองมากขึ้นจนชัดเจน จากเด็กที่สองปีที่แล้วไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหนในชีวิตดี
- ได้รับโอกาสจากอ.ธีรวิทย์จาก VISTEC ให้ไปฝึกงานที่นั่น (ภายใต้คำแนะนำของอ.ธนาวินท์) ปฏิเสธไม่ได้ว่าการไปฝึกงานครั้งนั้นสร้างจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
- สังคมที่ VISTEC ดีมาก ดีจนเราคิดถึง เราอยากเก็บความสัมพันธ์และคนที่นั่นไว้อยู่มากทีเดียวเชียว
- ได้รับโอกาสจากอ.ธีรวิทย์จาก VISTEC ให้ไปฝึกงานที่นั่น (ภายใต้คำแนะนำของอ.ธนาวินท์) ปฏิเสธไม่ได้ว่าการไปฝึกงานครั้งนั้นสร้างจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
- แต่ก็เป็นปีที่มืดบอดและหมดหนทางอย่างบอกไม่ถูก
- หลังกลับมาจาก internship ที่ VISTEC เราไฟหมด… หมดเพราะอะไรไม่รู้… และตอนนี้ยังจุดติดไม่ได้เท่าเดิม
- นอกจากลังเลใจว่าควรต่อป.โทดีไหม ก็ยังลังเลใจว่าเราควรต่อป.โทวิศวะคอม หรือต่อบริหารจัดการ
- เราไม่ปฏิเสธว่างานบริหารไม่ใช่งานที่เราอยากทำที่สุด แต่เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าโอกาสเติบโตของคนในสายบริหาร (ทั้งในแง่เงินเดือนและการพบปะผู้คน) สูงกว่าการเป็น dev ชั่วนิรันดร์มากๆ
- เราไม่เถียงว่า dev มีโอกาสโต, แต่ไม่รู้สิ ความเป็นไปได้มันมีสองอย่าง ไม่ (1) เราทะเยอทะยานกว่าการเป็น dev ที่เก่งมากๆ แล้วจบ ก็ (2) เราไม่เก่งพอ (และอาจไม่มีวันเก่งพอ) จนถึงระดับที่เราไม่เห็นความเป็นไปได้ที่เราจะยืน ณ จุดนั้น?
- มานั่งนึกถึงเรื่องต่อบริหารทีไร เราอยากกลับไปขอโทษศิระกรสมัยที่เขามาสัมภาษณ์วิศวะเกษตรทุกที
ความรัก
- ปีนี้มีความรักครั้งนึงแหละ แต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปค่อนข้างเร็ว แต่น่าประหลาดใจที่เราคิดว่าปีนี้เราได้เรียนรู้เรื่องความรักจากเรื่องของคนคุยเก่าได้เยอะมากๆ
- เราเคยตั้งเวลาว่าภายในหนึ่งปีเราจะลืมคนคุยเก่า หลังจากที่มีบางคนทราบเรื่องนี้ เราก็รู้สึกเราได้มุมมองอะไรใหม่ๆ บ้าง
หนูไม่จำเป็นจะต้องแคร์[เวลา]เลย ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งตั้งเวลาให้ตัวเอง ถ้าวันนึงหนูเจอคนที่หนูรอจริงๆ จะปฏิเสธเค้าเพียงเพราะไม่ถึงเวลาที่หนูตั้งไว้เหรอ
พี่ไอซ์
แต่ผมเชื่อว่าสุดท้ายความรักก็สวยงามเสมอ
อาจารย์บุ๊ง
- พอหัดก้าวผ่านอดีต ก็จะรู้จักหัดก้าวเดินไปต่อ, ก็เหมือนจะมีความกล้าออกไปตามหาความรักอยู่ช่วงนึง
- โหลด Tinder มาเล่น ถึงจะไม่เวิร์คก็ตาม 5555555
- แน่นอนว่าการลืมคนคุยเก่า (ที่ไม่ยอมออกจากหัวเรามาปีกว่าๆ) ไม่ใช่เรื่องง่าย
- เพิ่งมารู้สึกว่าใกล้แล้วแหละก็ตอนที่เดินเล่นวันคริสต์มาสแล้วไม่ร้องไห้
- การเรียนรู้ที่จะอยู่กับความทรงจำเป็นเรื่องที่ยากที่สุด แต่ถ้าทำได้จะรู้สึกว่าหลายอย่างง่ายขึ้นมากๆ
- พูดถึงตรงนี้แล้วคิดถึงแฟนเก่า — แฟนเก่าเป็นคนที่เรารู้แล้วแหละว่าเราจะเก็บภาพเค้าไว้ในใจยังไงให้เรานึกถึงมันแล้วคิดถึงเค้ามากที่สุดโดยที่เราไม่ต้องไปยึดติดกับอดีต
- ก็กำลังจะรู้สึกแบบนั้นกับคนคุยเก่าเหมือนกัน
- สรุปแล้วก็เป็นปีที่กลับมาเชื่อมั่นในตัวเองอีกครั้ง ตรงนี้คงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดของปีนี้แล้วมั้ง
มึงจะได้เชื่อสักทีว่ามึงก้าวต่อได้แล้ว
รวิส
พี่เชื่อว่าแกจะได้เจอคนที่ดี
พี่น้ำเงิน
- เรื่องความรักนี่ ถึงจะยังไม่มีใคร แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดของปีนี้แล้วมั้ง 🙂
เพื่อน
เสียดายไม่มีรูปสิบเอ็ดคน, แต่ดีใจที่ได้สนิทกันมากขึ้น และคิดว่าคงไม่ต้องเขียนบรรยายอะไรให้มากความเนอะ ดึ๋ง!
มองไปข้างหน้า
ได้เวลาเขียน 2019 Life Goals
- ฝึกงานต่างประเทศ
เป็นข้อที่น่าจะทำได้ยากที่สุดเพราะถึงเงินที่บ้านจะมี แต่ก็ไม่ได้เอื้ออำนวยขนาดนั้น (ญี่ปุ่นน่าจะไปได้แบบชิลๆ แต่อยากไปฝรั่งเศส…) - มีแฟน
เป็นปีแรกที่เขียนโกลแบบนี้ เพราะกลัวไวน์ที่พี่น้ำเงิน (จาก VISTEC) ให้มาพร้อมเจาะจงว่า “เปิดเฉพาะเมื่อมีแฟน” จะหมดอายุเสียก่อน (เปล่าหรอก อยู่คนเดียวเหงาเกินไปแล้วน่ะ) - อ่านหนังสือเดือนละสองเล่ม
หยวนให้เป็นเดือนละเล่มถ้าหนังสือหนา - นอนวันละเจ็ดชั่วโมงขึ้นไป
- วิ่งสัปดาห์ละสองวัน
Thanks
เลือกที่จะเขียนตรงนี้ไว้ในเฟซบุ๊คเพราะอยากแท็กหลายๆ คนมากกว่า ขอแปะลิงก์ไปตรงนั้นแล้วกันนะครับ
แต่อย่างไรก็ตาม ขอบคุณทุกท่านที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอีกครั้ง และหวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีของทุกท่านเช่นกันครับ
Leave a Reply