“เราโชคดีเนอะที่มีเธอ”
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“ไม่ได้ไงอ่ะ คนบนโลกนี้มีตั้งเจ็ดพันล้านคนรู้ป่ะ”
“เจ็ดล้านคนบนโลกนี้ เป็นคนไทยแค่หกสิบเจ็ดล้านคน”
“หนึ่งในหกสิบล้านก็ยังเยอะอยู่ดี”
“ช่วงอายุสิบห้าถึงยี่สิบสองปีที่เจ็ดล้านสามแสนคน”
“แล้วเจ็ดล้านสามแสนนี่ไม่เยอะ?”
“เป็นคนภาคกลางประมาณสามสิบเปอร์เซนต์”
“เหลือสองจุดสองล้านคน”
“อัตราการรู้หนังสืออยู่ที่เก้าสิบเปอร์เซนต์”
“หนึ่งจุดเก้าแปดล้านคน”
“เป็นพุทธเก้าสิบห้าเปอร์เซนต์”
“หนึ่งจุดแปดหนึ่งล้านคน”
“ตีเป็นผู้หญิงที่ครึ่งครึ่งไหม?”
“ไม่ถึงหนึ่งล้านคน”
“หนึ่งในเจ็ดพันล้าน เหลือแค่เกือบหนึ่งในล้าน ยังโชคดีอยู่หรือเปล่าล่ะ”
“งั้นเราถามเธอกลับ รักเคยแบ่งเพศไหม”
“โอเคยอม แต่คนพุทธคิดเป็นหนึ่งจุดแปดล้านคน”
“รักไม่ขึ้นกับศาสนา”
“คนรู้หนังสือที่หนึ่งจุดเก้าแปดล้านคน”
“รักเป็นอารมณ์ ไม่ใช่ความรู้”
“ไม่เอาอัตราการรู้หนังสือมาคิด คนภาคกลางก็สองจุดสองล้านคน”
“รักไม่จำกัดท้องถิ่น”
“ตามช่วงอายุประมาณบวกลบสามปี ก็ยังสองจุดสองล้านคน”
“ขอโทษนะ ไม่พูดให้เสียเวลาเลยแล้วกัน รักมันไม่เคยจำกัดอะไรหรอก รู้เหรอว่าคนที่เข้ามาในชีวิตเราจะเป็นคนไทยที่อาศัยในกทม. เป็นเพศหญิง นับถือพุทธ และรู้หนังสือ?”
“…”
“จะเป็นล้าน หรือเป็นพันล้าน ก็เป็นเราสองคนที่มาเจอกันและรักกัน เหตุผลแค่นี้พอหรือยังที่จะบอกว่าเราโชคดี?”
“ก็พอแล้วมั้ง”
“เข้าใจแล้วใช่ป่ะ”
“ก็เข้าใจแล้วแหละ…”
“…เพราะมาคิดๆ ดูอีกที เราก็โชคดีเหมือนกัน”
Leave a Reply