เศษแก้วที่แตก

คุณรู้อะไรไหม ตั้งแต่จำความได้ ตัวฉันก็เป็นเศษแก้วที่แตกแล้วนั่นแหละ

แต่คุณ-ฉัน-ทุกคนก็รู้นี่เนอะ ว่าเศษแก้วที่แตกน่ะมันไม่มีวันยอมรับว่าตัวเองเป็นเศษแก้วแตกๆ หรอก คุณค่าของมันหมดไปตั้งแต่วินาทีที่มันหล่นลงพื้น กระจัดกระจายไปทั่ว ตั้งแต่ชิ้นใหญ่จนตาเห็น ถึงอนูแก้วที่เล็กที่สุด

จะชิ้นไหน ยามเมื่อสัมผัส ก็เลือดออกเหมือนกัน

เศษแก้วแบบฉันจึงต้องบอกว่าตัวเองไม่ใช่เศษแก้ว–เอ่อ หมายถึงเป็นงานศิลปะ เป็นอะไรสักอย่าง พูดง่ายๆ ว่าจงใจเป็นเศษแก้วน่ะ–หยิบความแตกร้าวของตัวเองมาพูดนิดหน่อย ใส่อารมณ์ขันให้มันไปบ้าง ไม่มีเศษแก้วชิ้นไหนที่อยากยอมรับว่าตัวเองแตกสลายหรอก

จนคุณมาบอกว่าคุณเห็นฉันเป็นเศษแก้วมาตลอด เห็นความแตกร้าวที่ฉันไม่อยากให้เกิด เห็นว่าจริงๆ แล้ววินาทีที่ฉันหล่นลงพื้น แรงกระทบทำให้ฉันเจ็บปวดแค่ไหน

คุณเห็นมันทั้งที่ฉันพยายามปกปิดแทบตาย


คุณรู้ใช่ไหม, เป็นเศษแก้วน่ะ จะเป็นคนแบบไหนมาจับมันก็บาดมือนะ ปากฉันปฏิเสธว่าไม่อยากให้ใครมาจับ แต่ก็เหมือนคุณรู้นั่นแหละว่าฉันถวิลหาสัมผัสมากแค่ไหน, สัมผัสที่ฉันได้รับเมื่อยามเป็นแก้วเต็มใบ

แล้วฉันก็บาดมือคุณ

ฉันก็รู้ว่าเลือดสีแดงฉานมันจะออกจากตรงที่ฉันบาดคุณ แต่ฉันไม่คิดว่าของเหลวไร้สีมันจะออกมาจากตาคุณด้วยเช่นกัน

วินาทีที่หยดของเหลวใสนั้นหยดกระทบฉัน ฉันรู้สึกว่ามันแข็งและแหลมคมยิ่งกว่าพื้นที่ฉันเคยกระทบ ฉันเจ็บปวดยิ่งกว่าเคย, แต่ถ้ามองว่าเป็นผลลงโทษสำหรับแผลเลือดไหลของคุณ ก็คงสมควรและสาสมแล้วกระมัง


ทำไมคุณยังจับฉันอยู่นะ? ฉันไม่มีพลาสเตอร์หรอกนะ ฉันเป็นแค่เศษแก้ว

ทำไมมือของคุณนุ่มจังเลยนะ? ฉันไม่อยากให้มือคู่นั้นต้องหยาบขึ้นจากแผลของเศษแก้วเลย

ทำไมคุณยังไม่ปล่อยฉันไว้กับพื้นเหมือนคนอื่นนะ?

ฉันไม่รู้หรอกว่าฉันควรนิยามความสัมพันธ์กับคุณไว้ว่าอย่างไร, เพียงแค่หวังว่าสักวันหนึ่งเศษแก้วอย่างฉันจะถูกลบคมด้วยมือของคุณ ขัดเกลา เจียระไน และเปล่งประกายในแบบที่คุณอยากเห็นฉันเป็น

คุณค่าของฉันที่คุณมอบให้อีกครั้ง คงไม่มีคำขอบคุณใดๆ จะเพียงพอ


หมายเหตุ: metaphor ของเศษแก้วได้รับแรงบันดาลใจอย่างยิ่งมาจากวันหนึ่งความทรงจําจะทําให้คุณแตกสลาย ของจิดานันท์ เหลืองเพียร

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *