Category: Uncategorized

  • VISTEC Internship – Prelude

    VISTEC Internship – Prelude

    นี่เป็นครั้งที่สองที่ได้ฝึกงานช่วงปิดเทอม (จริงๆ ก็อาจจะนับว่าเป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่างานเขียนเว็บที่ทำก่อนขึ้นปีหนึ่งนั่นนับว่าฝึกงานได้ไหม :P) แต่ก็รู้สึกว่าควรมาบันทึกอะไรไว้หน่อย

    ฝึกงานสายวิชาการ — ทางเลือกที่ไม่ได้พบบ่อย

    จริงๆ แล้วต้องบอกว่าในขณะที่หลายคนเลือกฝึกงานกับ tech companies ทั่วไป จริงๆ มีอีกหนึ่งทางเลือกที่หลายคนไม่ได้หยิบมาพิจารณา คือการฝึกงานกับมหาวิทยาลัยหรือหน่วยงานวิจัย

    ความตั้งใจแรกของเราคือมาเก็บเกี่ยวความรู้ machine learning/deep learning หลังจาก research คร่าวๆ มาก็พบว่าถ้าอยากฝึกงานสาย academic ในไทยน่าจะมีตัวเลือกอยู่สองตัวเลือกได้แก่

    • NECTEC (ศูนย์เทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ) ซึ่งเป็นองค์กรภายใต้สวทช. เท่าที่ดูแล้วสายที่เราสนใจในเนคเทคก็แข็งแกร่งอยู่ไม่ใช่น้อย ทีม Machine Learning ที่นั่น (ถ้าเข้าใจไม่ผิด) นำโดยอาจารย์สรรพฤทธิ์ และทีมที่เรา (เคย) สนใจ (จริงๆ ก็สนใจอยู่ :D) คือทีม NLP ของพี่อาร์ม
    • VISTEC (สถาบันวิทยสิริเมธี) เป็น graduate school กับ frontier research centre ที่มีบริษัทรัฐวิสาหกิจและเอกชนหลายเจ้า (หลักๆ ได้แก่เครือปตท. และตอนนี้มี sponsors เพิ่มสองบริษัทคือ KBANK และ SCB)

    อาจารย์ธนาวินท์ (ที่ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์) มีงานที่ cooperate อยู่กับทีมที่ VISTEC ด้วยพอดี ด้วยคำแนะนำของอาจารย์เลยตัดสินใจมาที่ VISTEC นี่ละ 😀

    VISTEC

    VISTEC หรือสถาบันวิทยสิริเมธี เป็นสถาบันวิจัยและบัณฑิตวิทยาลัยที่ตั้งอยู่กลางอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง — ถึงจะบอกว่าตั้ง “กลาง” อำเภอ แต่ความจริงที่นี่ห่างจากตัวเมืองค่อนข้างมาก

    บรรยากาศการทำงานที่ VISTEC ดีมาาาากก 😀 ที่เห็นในรูปคือตึกออดิทอเรียมและหอสมุดของ VISTEC ซึ่งถ่ายจากกลางทะเลสาบขนาดไม่ใหญ่มากหน้า VISTEC เอง

    ส่วนไปทำยังไงถึงถ่ายมุมนั้นได้น่ะเหรอ

    A post shared by srakrn (@srakrn) on

    คำตอบคือถ่ายตอนไปพายเรือครับ! ใช่ครับ เรือคานูลำเล็กๆ ที่พายคนเดียวได้! ด้วยความที่ graduate students และนักวิจัยที่นี่ต้องทำงานค่อนข้างหนัก บวกกับห่างไกลจากสถานที่พักผ่อนในตัวเมือง (ไกลกรุงเทพและไกลตัวเมืองระยอง) ภายใน VISTEC เลยมีสิ่งอำนวยความสะดวกและ facilitites ที่พร้อมมากๆ จำนวนหนึ่งไว้รองรับ

    เป็นการรีวิวฝึกงานที่ประหลาดดีเพราะเปิดมาด้วยการพูดถึงเรื่องสุนทรียภาพก่อนเข้าตัวงาน 5555555

    งานที่ทำ

    ผมสังกัดเป็น Research Assistant Internship (ผู้ช่วยนักวิจัยฝึกงาน) ครับบ งานที่ได้รับมอบหมายคือช่วยอิมพลีเมนต์งานวิจัยเรื่องการควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยคลื่นสมอง ถึงอย่างไรก็ตาม working space ที่ผมทำงานจะนั่งรวมกับพี่ๆ ที่ทำ smart living solutions ตอนผมไม่มีอะไรทำก็เลยช่วยพี่บางคนดูแลตรงนี้ไปพร้อมกันด้วย

    งานหนักไหม หนักครับ แค่เย็นวันแรกที่มาถึงเราก็รุมหัวล้อมโต๊ะทั้ง research team แล้ว

    A post shared by srakrn (@srakrn) on

    ผมหมายถึงล้อมโต๊ะพูล… นอกจากเรือให้พายเล่นและวิวดีๆ ให้ดู ก็มีโต๊ะพูลและฟิตเนสให้ใช้บริการด้วยนะ XD

    ส่วนตัวมองว่านี่คือ Work-Life balance จริงๆ ครับ ผมอาจจะทำงานค่อนข้างดึกแต่ทำเพราะเพลินและไม่มีอะไรทำ ในขณะเดียวกันพอมีอย่างอื่นทำก็ชิลในระดับที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ productive เลยเหมือนกัน นอกจากนั้นก็ต้องขอบคุณทีมในนี้ที่ทุกคนน่ารักกันมากๆ คุยเล่นและเฮฮาได้เต็มที่ครับ

    เข้าเรื่องจริงๆ ละครับ 55555 งานที่ได้รับมอบหมายให้ทำคือ implement การสั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วยคลื่นสมอง ผ่านการ monitor คลื่นไฟฟ้าในส่วนการมองเห็น ซึ่งจะถูก stimulate ผ่านการมองเห็น และเราสามารถนำคลื่นตรงนี้มา analyse ได้

    บอร์ดในรูปคือ OpenBCI เป็น Brain-Controlled Interface toolkit สำหรับ monitor คลื่นสมองหรือคลื่นไฟฟ้าจากกล้ามเนื้อ ดังนั้นในช่วงแรกๆ ของการฝึกงานเลยเอามาทำอะไรสนุกๆ เล่นหน่อย

    เป็นการเอา OpenBCI มา monitor การขยับตาเพื่อเล่นเกมไดโนเสาร์ของ Google Chrome ครับ 😀 แน่นอนว่าวิชาจำพวก signal processing ที่เรียนมาได้ใช้ประโยชน์แน่ๆ เพราะคลื่นสมองนั้นมี amplitude อยู่ที่ระดับ millivolts ซึ่งแค่ไฟบ้าน (ที่วิ่งด้วยความถี่ 50Hz) ก็สร้างสัญญาณรบกวนจำนวนมากได้แล้ว

    อีกอย่างหนึ่งคือคลื่นสมองเป็นคลื่นที่มี Signal to Noise Ratio (SNR) ค่อนข้างต่ำ ทำให้การ monitor/analyse ข้อมูลทำได้ยากกว่าปกติ ซึ่งก็เป็นหนึ่งใน research directions ของแล็บที่จะ process กับสัญญาณเหล่านี้ด้วยวิธีต่างๆ

    research directions ตรงนี้ผมคงเขียนถึงไม่ได้มากเพราะเป็น confidential ของทางแล็บเองด้วย แต่เอาเป็นว่าท้าทายและสนุกดีครับ 😉

    สรุปปิดท้ายสัปดาห์แรก

    เป็นสัปดาห์ที่ทำให้จับ pace การทำงานของตัวเองได้ง่ายขึ้น ว่าควรไปเร็วแค่ไหน ทำได้แค่ไหนถึงกำลังรักษา balance หลายๆ อย่าง หวังว่าอาทิตย์ต่อๆ ไปจะได้มา progress update เรื่อยๆ แล้วกันครับ 😀

  • ห้องศึกษาเดี่ยวหมายเลข 15

    ห้องศึกษาเดี่ยวหมายเลข 15

    (0)

    เราทุกคนล้วนต้องการพื้นที่สักพื้นที่หนึ่งที่เป็นตัวของตัวเอง

    อาจจะเป็นบรรยากาศต่างๆ ในพื้นที่นั้นที่ทำให้เราผ่อนคลาย เป็นสภาพแวดล้อม เป็นเสียงดนตรีที่ดังประโคมจนเต็มโรงอุปรากร หรือแม้แต่คอกเล็กๆ เงียบๆ ที่ดัง

    พื้นที่แห่งความสบายใจไม่จำเป็นต้องกว้างขวาง ขอเพียงแค่อบอุ่น

    (1)

    ห้องศึกษาเดี่ยวหมายเลข 15 เป็นห้องเงียบๆ พื้นที่ไม่กว้างนัก หน้าประตูที่ปิดทึบมีเพียงป้ายพร้อมเลข “15”

    บางครั้งเราทุกคนก็ต้องการพื้นที่เล็กๆ ที่เมื่อเข้ามาแล้วสามารถปล่อยความคิดและทัศนะคติให้ฟุ้งไปได้ ทุกครั้งที่ศิระกรเปิดประตูเข้ามา เขามองเห็นความทรงจำและความคิดต่างๆ ที่เคยตกผลึกในสถานที่แห่งนี้

    ยามปิดประตูห้องเมื่อหอสมุดใกล้ปิด มองความมืดของห้องที่ปิดไฟผ่านกระจกบานใหญ่ ศิระกรเห็นศิระกรในอดีตหลายอิริยาบท ทั้งนอน อ่านหนังสือ เรื่อยเปื่อย และร้องไห้ — นอกจากความคิดมากมายแล้ว อารมณ์ที่ฝากอยู่ในห้องนี้ก็มากมายเช่นกัน

    (2)

    หลังประตูห้องหมายเลข 15 มีกฏกติกามากมาย — กฏข้อแรกเขียนว่า “ห้องศึกษาเดี่ยวใช้สำหรับคนเดียว” — น่าดีใจที่ศิระกรไม่ใช่คนทำตามกฏอะไรมากนัก ห้องนี้จึงเปิดให้คนบางคนเข้ามา

    แต่ก่อนศิระกรไม่เคยล็อกห้องนี้ — เขาตั้งใจว่าใครที่มองออกผ่านความคิดของเขาว่าคนในห้องนี้คือใคร ก็สมควรที่จะได้รับการเปิดประตูต้อนรับ

    แต่ห้องศึกษาเดี่ยวมีขนาดจำกัดของมัน — สุดท้ายจึงเป็นศิระกรที่ต้องเลือกล็อกห้อง — และหากคุณกำลังอ่านบล็อกนี้อยู่ ศิระกรก็คงอยากเปิดประตูห้องศึกษาเดี่ยวให้คุณได้เข้าไปเห็นศิระกรอีกมุมหนึ่งที่อยู่หลังม่าน ที่ที่เมื่อคุณเปิดประตูเข้าไป จะเจอคำต้อนรับของเขาและความคิดมหาศาล

    พร้อมกับคำถามที่เขาถามคนอื่นเสมอ: “อยากรู้จักเราจริงๆ เหรอ”


    ห้องศึกษาเดี่ยวหมายเลข 15 มีตัวตนจริง และเป็นหนึ่งในที่นั่งอ่านหนังสือของศิระกร รวมถึงเป็นที่ซึ่งศิระกรใช้ในการตกผลึกความคิดจริงๆ 

    บล็อกโพสต์นี้สามารถอ่านได้เฉพาะผู้ที่มีลิงค์เท่านั้น

  • ถึงผมและพวกคุณ: ชีวิตหลังจบปีสอง

    ถึงผมและพวกคุณ: ชีวิตหลังจบปีสอง

    จริงๆ อยากเขียนลงเฟซบุ๊คด้วย แต่บังเอิญเป็นคนขี้อายไปนิด เลยตัดสินใจมาเขียนเงียบๆ ตรงนี้ดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่น่าจะมีคนคลิกมาอ่านเยอะสักเท่าไหร่

    1 – ถึงตัวเอง

    ครึ่งทางแล้วว่ะคุณ

    หลังจากคุณเคว้งคว้างในปีการศึกษาแรก ในครึ่งทางของชีวิตการศึกษาระดับปริญญา คุณเลือกไปสาย Machine Learning และ Deep Learning แม้จะยังใหม่แต่คุณก็รู้สึกว่านี่คือทางของคุณ

    คุณเชื่อว่าทางสายนี้จะทำเงินแม้ว่าผู้คนสายนี้จะเฟ้อจากฟองสบู่ของมันก็ตาม คำถามทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่าคุณจะสามารถดันตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีกว่าคนทั่วไปได้หรือเปล่า คำถามนี้จะถูกตอบในอีกหนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า กล่าวคือเป็นการไปฝึกงานครั้งที่สองของคุณ ขอให้โชคดีและทำให้เต็มที่นะ

    ณ ชีวิตขณะนี้คุณกำลังลังเลกับการเรียนต่อปริญญาโท ทั้งตัวเลือกที่จะไม่เรียน และตัวเลือกที่จะเรียน ทั้งในสายคอมและสายบริหาร

    ใช่ สายบริหาร! หลังจากคุณนอนน็อคในช่วงก่อนสอบ อยู่ดีๆ คุณก็มีคำถามว่างานของคุณจบไปจะสามารถสร้างความมั่นคงได้จริงๆ เหรอ? จริงอยู่ว่าคุณไม่อดตายแน่ แต่โอกาสที่คุณจะได้นั่งบนบังเหียนกุมบริษัทก็น้อยตาม

    ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ก็หวังว่าคุณจะทำเหมือนที่คุณทำมาโดยตลอด คุณเชื่อว่าโลกนี้ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ขอให้คุณเอาข้อมูลทุกอย่างมาคิดและตัดสินใจให้รอบคอบนะ

    สู้ๆ เป็นกำลังใจให้กับการตัดสินใจนะ 🙂

    2 – ถึงพวกคุณ

    หลังจากเขียนถึงตัวเองก็คงได้เวลามาเขียนถึงคนอื่นแล้วแหละเนอะ ไม่มานั่งคุณเคิณแล้วด้วย 5555555 นอกจากในรูปนี้แล้ว คนที่อยากกล่าวถึงเช่นกันคือพี่นิว พรมนัส ไก่จุ้ย และคนเฮนเนยด้วย

    สำหรับคนในรูป เราดีใจที่รูปห้าคนมันงอกออกมาเป็นเจ็ดคน (และคงจะดีใจกว่านี้ถ้ามันยังเป็นแปด) ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันเราได้อะไรหลายๆ อย่างไปค่อนข้างมาก และดีใจที่ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง เห็นคนเริ่มไปงานพวก Game Jam เห็นเพื่อนๆ ทยอยเข้าแล็บ หรือแม้แต่เห็นการตั้งคำถามว่าจะทำอะไรต่อดี การยืนอยู่ในจุดที่คนรอบตัวกำลังค่อยๆ โตขึ้น มองไปแล้วมันสวยมากเลยนะ

    อีกอย่างที่อยากบอก อารมณ์และความรู้สีกหลายอย่างที่ผ่านมาตอนปีสองได้พวกแกช่วย support ไว้ค่อนข้างเยอะมากๆ ถ้าต้องพูดกันตรงๆ ชีวิตเราก็ได้พวกแกมา spice up ขึ้นนะ 😀 ขอบคุณสำหรับรสชาติความ “อร่อย” นี้ เพราะเราก็ไม่คิดว่ามันจะกลมกล่อมไปมากกว่านี้ได้แล้วแหละ

    ปีสามแล้วหวังว่าทุกคนจะได้เจอทางของตัวเองนะ ค่อยเป็นค่อยไปดอกไม้จึงบาน 🙂

    3 – ถึงพวกคุณๆ

    ถ้าไมล์สโตนมันนับกันได้ง่ายๆ ด้วยปัจจัยเพียงแค่เวลาอย่างเดียว เราก็คงบอกว่าชีวิตในมหาวิทยาลัยของเราไหลไปครึ่งทางแล้ว

    น่าเสียดายที่สำหรับเรามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ความสนุกในชีวิตมหาวิทยาลัยจริงๆ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ทั้งกิจกรรมและงานมหาศาล ฝึกงานและโปรเจกต์จบ — ปีหน้างานกิจกรรมเยอะขึ้นแน่ๆ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ -/|\-

    สวัสดีสมาชิกใหม่อีกหกบวกหนึ่งคนที่เพิ่งเข้ามาเจอกันด้วยนะ 😀 ถ้ามีใครที่เคยอยู่ตรงนี้แล้ววันนี้ไม่อยู่แล้ว ก็ขอถือโอกาสสวัสดีและบอกว่าคิดถึงมาด้วยเลยแล้วกัน

    เป็นกำลังใจให้ทุกคนสามารถเดินไปในทางที่ตั้งใจได้ ขอให้โชคดีและเดินไปอย่างแข็งแกร่งนะ

    บล็อกอีกสองปีข้างหน้าคงเป็นบล็อกที่มีความหมายมากๆ อีกชิ้นนึงแน่นอน 🙂

  • เป็ดน่ากลัว

    เราอาจจะได้ยินการเปรียบเทียบคนที่ทำอะไรหลายๆ อย่างได้เป็น แต่ไม่เก่งจริงๆ สักอย่างว่าเป็นเป็ด
    ว่ายน้ำได้ บินได้ แต่ว่ายก็ไม่คล่อง บินก็ไม่สวย

    วันนี้ระบบส่งงานเก่าของรายวิชาที่เป็น TA มีปัญหานิดหน่อย ช่องทางปกติไม่สามารถส่งงานได้ ก็ใช้เวลาสองสามชั่วโมงในการเขี่ยระบบส่งชั่วคราวมาใช้

    ข้างหลังก็ชุ่ยๆ ใช้ AJAX ยิง request ไปแบบขอไปที ตอนเขียนก็เขียน jQuery ธรรมดา ไม่มีอะไรพิสดาร

    แต่อยู่ดีๆ ก็มานั่งนึกว่าตัวเองน่าจะทำอะไรได้เป็นมากพอในระดับนึง (ถึงแม้จะยังไม่เทียบชั้นคนอื่น) และพอเห็นแล้วว่า “เป็ด” ที่เก่งกว่าเรานี่น่ากลัวขนาดไหน

    โลกนี้บางทีก็อาจจะไม่ได้ต้องการคนเฉพาะทางที่ลงลึกมากขนาดนั้น แต่อาจจะถูกขับเคลื่อนด้วยเป็ดที่ความสามารถตื้น แต่เยอะกว่า ทำงานได้หลายอย่างมากกว่าก็เป็นได้

    ถึงกระนั้นก็ยังไม่นับตัวเองว่าเป็นเป็ด (เพราะกากเกิน :P) และไม่คิดว่าเป็นเป็ดดีจริงๆ อยู่ดี ฮา

    แต่เป็ดที่เก่งน่ากลัวจริงๆ นะ

  • Fly Me To The Moon

    Fly me to the moon
    Let me play among the stars
    Let me see what spring is like
    On a, Jupiter and Mars
    In other words, hold my hand
    In other words, baby, kiss me

    Fill my heart with song
    And let me sing for ever more
    You are all I long for
    All I worship and adore
    In other words, please be true
    In other words, I love you

    Fill my heart with song
    Let me sing for ever more
    You are all I long for
    All I worship and adore
    In other words, please be true
    In other words, in other words
    I love you.

  • [เพลง] แค่ได้เป็นคนสุดท้ายที่เธอคิดถึง

    แต่คงมีบางคนเขายืนอยู่ อยู่บนนั้นบนดาวคู่เธอ
    และต่อให้ไม่มีใครใครไปสู่ ก็รู้ดี ว่ายังไม่ใช่ฉัน

    แค่ได้เป็นคนสุดท้ายที่เธอคิดถึง
    ได้เข้าไปอยู่ในนั้นซึ่งฉันไม่ควรได้เข้าไป
    แค่เท่านี้ก็ดีพอกับใจของฉัน

    แค่ได้เป็นคนสุดท้ายที่เธอมองเห็น
    ได้อยู่ในสายตาที่เยือกเย็น
    แค่เท่านี้ก็เป็นความสุขมากมายเกินกว่าฝัน

    อยู่ตรงนี้ก็มีความสุขใต้ดวงดาวเหมือนกัน

  • เพลง – สายฝน

    Rain beads sparkle in your hair, love.
    Rainbows glitter when you smile.
    Thus we soon forget the clouds above,
    Beauty so does beguile.

    ป.ล. แนะนำให้ใส่หูฟังดีๆ แล้วฟัง

  • Still on My Mind

    เพลงพระราชนิพนธ์ ในดวงใจนิรันดร์ (Still on My Mind)

    Though time has the power to quell,
    It really cannot dispel.
    The magic touch of your hand,
    So gentle in mine…

  • คิดถึงโรงเรียน / คิดถึงที่โรงเรียน

    ถ้าท่านได้อ่านบล็อกนี้ กรุณาอย่าแชร์ลิงก์ มันจะไม่ขึ้นที่หน้าแรกบล็อก


    (1)

    เราไม่รู้เรารักโรงเรียนไหม

    เราอยากกลับไปโรงเรียนนะ เราเคยกลับไปคนเดียวแบบไม่มีเพื่อนเป็น factor
    ก็พบว่ามันน่ารักดี อาจารย์ทุกคนทักว่าสูงขึ้น อาจารย์น็อตมาบอกว่าหนังสือรุ่นเข้าที่ประชุม อาจารย์ตูมยังตั้งใจทำงานและบ่นฝ่ายแนะแนว (แต่ก็ยังแก้งานของทางนั้นให้ด้วย)

    หน้าโต๊ะทำงานอาจารย์ตูมมีโพลารอยด์แผ่นนึง
    เป็นรูปเรากับอาจารย์แก

    เปิด Snapchat แคปชั่นมีหน้ายิ้ม


    (2)

    เราไม่อยากไปแตะชั้นสอง

    เรารู้สึกมีอตคิ (ที่น่าจะรู้กันดี) กับชั้นนี้

    นอกจากห้องอาจารย์แหม่มแล้ว เราไม่อยากไปชั้นนั้นเลย


    (3)

    เราขึ้นห้องไป อาจารย์ณรงค์ชัยยังนั่งฮาเฮ

    เป็นไงล่ะมึง ได้เจอแกสอนเทอมสองสมใจ ดีนะไม่มีอินทิเกรตสักเท่าไหร่เพราะเป็นทฤษฎี

    ยังให้แกดูดวงอยู่เหมือนเดิม


    (4)

    อาจารย์ตู่ไม่อยู่


    กลับไปโรงเรียนแล้วก็ได้อะไรแบบนี้เสมอแหละ แล้วก็ถามว่าเออคิดถึงโรงเรียนหรือเปล่า

    หรือคิดถึงแค่บางส่วนของโรงเรียน

    ถ้าไม่นับชั้นสอง (ซึ่งเป็นหัวใจของที่นั่น) การที่เราคิดถึงที่นี่ (แต่ไม่คิดถึงหัวใจของมัน) นี่คือคิดถึงโรงเรียนหรือเปล่า

    ถ้ารักอะไรบางอย่างที่นี่ (มากพอที่จะให้กำเนิด srakrnARSE, Admission Web และยอมให้ตั้งโล่ NLC ไว้ที่นั่น) แบบนี้นี่นับว่ารักโรงเรียนได้หรือเปล่า (ในเมื่อมึงก่นด่าไว้เสียเละในหนังสือรุ่น)

    ถ้าภูมิใจว่าเราเคยมานั่งตรงนี้ แต่ไม่เคยอยากออกปากว่าจบจากที่นี่ นับว่าภูมิใจในที่นี่หรือเปล่า

    ใช่ อยู่ชั้นสองก็คงคิดถึงบ้างน่ะแหละ
    คิดถึงเงิน

  • ในหลวงรัชกาลที่ 9

    เผยแพร่ครั้งแรก 13 ตุลาคม 2559 ณ เฟซบุ๊คส่วนตัว

    ตอนประถมศึกษา ผมเคยถูกทาบทามจากคุณครูให้แข่งพูดสุนทรพจน์
    ถึงแม้จะเป็นเวลานานมากแล้ว แต่ประโยคแรกของสุนทรพจน์นั้นยังอยู่ในหัวผมตลอดมา

    “What is being a great leader? That is a simple question, but a big role to play.”

    มองย้อนกลับไปเพียงไร บทบาทของท่านในฐานะพระมหากษัตริย์ก็เป็นบทบาทที่ยิ่งใหญ่มาก

    การดูแลความเป็นอยู่ของพสกนิกรร่วมเจ็ดสิบล้านคนเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ตลอดระยะเวลาที่ท่านอยู่เป็นร่มโพธิ์ของชาวไทยนั้น ทุกคน – ไม่ใช่แค่ชาวไทย – แต่รวมถึงนานาอารยะประเทศ ได้ประจักษ์เห็นแล้วว่าในหลวงของเราทรงเป็นกษัตริย์ที่แข็งแกร่ง และเป็นผู้นำประเทศไทยจนมีวันนี้

    ผมเชื่อว่าแม้สังขารจะล่วงลับ แต่พวกเรา – ประชาชนชาวไทยทุกคน – หรือลูกของพ่อทุกคน จะยังมีภาพของท่านอยู่ในทุกขณะจิต ไม่ว่าจะเป็นในฐานะกษัตริย์ ฐานะผู้นำ หรือผู้ซึ่งเราเดินรอยตามอยู่ในทุกการกระทำ

    ท่านไม่ได้ไปไหนไกลครับ ท่านอยู่ในใจของชาวไทย
    ขอบคุณที่คุ้มครองชาวไทยมาตลอด 70 ปีนะครับ :’)