อยู่ดีๆ ก็อยากเขียน
อนึ่ง นี่เป็นบันทึกความรู้สึกจากหัวใจ ซึ่งความรักเป็นสมาชิกของเซตความรู้สึก ดังนั้นหลายอย่างในบทความนี้อาจไม่เกี่ยวกับความรักแบบคู่ (couple relationship)
- เราสร้าง first impression เองได้
- และใครก็สร้าง first impression ให้เราได้เช่นกัน
- first impression อาจจะเป็นหน้าตา นิสัย คำพูดแรกที่ทัก หรืออะไรก็ตาม
- first impression สำหรับเรามีผลมากเลยนะ จะรู้สึกว่าใครตราตรึงก็เพราะตอนเจอกันครั้งแรกนี่ละ
- สำคัญกว่า first impression คือ second impression
- ตอนยังไม่สนิทกันมาก เราอาจรู้สึก “ถูกคอ” กับใคร แต่พอเวลาผ่านไป second impression มันจะทำให้เราเห็น mindset และทัศนะคติของหลายๆ คน
- เช่น พี่เนียนที่เรา first impress ในฐานะเพื่อน และดีใจที่พี่เป็นพี่ใจดีที่คุยได้เรื่อยๆ
- จากข้อบน คนเรามีเวลาเรียนรู้กันได้เสมอ
- คนเราอาจไม่ต้อง expect สถานะ “พิเศษ” ในการดูแลคนอื่น
- บางทีเลิกรากันไปแล้วก็ยังดูแลกันได้ คุยกันได้ในฐานะเพื่อน
- ถ้าเราอยากทำให้เค้ามีความสุขด้วยการดูแลเค้า และความสุขของเราคือการเห็นเค้ามีความสุข ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็แปลว่าเรา “ไม่ควร” ยึดติดกับสถานะว่าเป็นคู่หรือไม่เป็นคู่
- บางคนก็บอกว่านี่เป็นนิยามของ pure love คือ “ความยินดีที่อีกฝ่ายมีความสุข”
- แต่จริงๆ นะ มนุษย์เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง love+lust ภายใต้ความสุขที่มัน pure จริงๆ แล้วมีตัณหาและความอยากเป็นเจ้าของครอบงำอยู่
- เรานับถือคนที่แยกตรงนี้ออก เพราะหมายถึงคุณเข้าใจความหมายของคำว่ารักจริงๆ โดยไม่เอามันไปผูกกับคำว่า “แฟน” “เหมือนพี่น้อง” หรืออะไรก็ตาม
- แต่สุดท้ายสำหรับคนที่ไม่สามารถแยกได้ มันก็คือการที่คุณพยายาม cope กับความ “อยากเป็นเจ้าของ” หรืออะไรทำนองนั้น
ความอกหัก ในมุมมองของเรา ไม่ได้เกิดจากการไม่รัก แต่เกิดจากการไม่สามารถ “maintain” ความอยากครอบครองได้- ถ้าถามว่างั้นจะจีบทำไมในเมื่อไม่ต้องการเป็นแฟน ก็เป็นการตอกย้ำความจริงว่ามนุษย์เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่าง love+lust
- ถ้าบอกว่า “อ้าว แม่งก็เป็นงี้ทุกคน” และพยายามถามว่ามนุษย์ที่แยกรักกับใคร่ออกจากกันได้แม่งมีแค่ไหน ก็ยินดีด้วย คุณคือมนุษย์ปกติ แต่พวกที่แยกออกคือพวกที่ “บรรลุ” แล้ว
- แต่สุดท้ายแล้ว “สถานะ” ก็เป็นตัวกำหนดความ dependence ของทั้งสองฝ่าย ให้คนสองคนขึ้นต่อกันด้วยความสัมพันธ์ที่พิเศษ เป็นความสัมพันธ์อบอุ่นๆ ที่ไม่รู้สึกกับทุกคน
“ความรักฉันมันควบคุมไม่ได้ ถ้ารักสักครั้ง มันจะมากที่สุด จะทุ่มทั้งใจ จะผูกวิญญาณไว้กับคนคนนั้น ดังนั้นเมื่อทุกอย่างพังทลาย เมื่อมันไม่เป็นอย่างที่เคย ฉันก็จะเจ็บปวด ฉันจะตายทั้งเป็น ความรู้สึกของฉันมันจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนั้นแน่ ๆ และฉันรู้มาตั้งแต่แรก” – On Love โดยพี่ต้นกล้า
- ถ้าเราอยากทำให้เค้ามีความสุขด้วยการดูแลเค้า และความสุขของเราคือการเห็นเค้ามีความสุข ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็แปลว่าเรา “ไม่ควร” ยึดติดกับสถานะว่าเป็นคู่หรือไม่เป็นคู่
- บางทีเลิกรากันไปแล้วก็ยังดูแลกันได้ คุยกันได้ในฐานะเพื่อน
- ความเหงาฆ่าคนได้
- ความเหงาจะออกฤทธิ์แรงเมื่อเรามีเวลา “เพ่งดูจิต” ของตนเอง
- เชื่อว่า “จิต” ไวที่สุด และคงเป็นการยากที่จะเพ่งพิจารณาทุกอิริยาบทของความคิด
- เคยพยายามหา podcast ธรรมะมาฟัง แต่ไม่ได้ช่วยอะไร
- มีเวลาว่างก็อยากฟังอีก
ตันแล้ว ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว เลยปิดท้ายด้วยทวิตไว้อีกทวิต
เวลาบอกว่าเลิกกับแฟนแล้วมันคือ FYI ที่ควรจบตรงนั้นอ่ะ ไม่ใช่ทำไมเลิก ทำไมอะไร ลำพังเองพอพูดเรื่องเศร้ามันก็เศร้าแล้ว คำถามพ่วงมันซ้ำเติมอีก
— @srakrn (@srakrn) July 26, 2016
Leave a Reply