พอถึงวัยอายุ X ปี คนจะเลิกตัดสินเราจากศักยภาพและอนาคต หันมาตัดสินจากประสบการณ์และความสำเร็จที่ผ่านมา”
วลีข้างต้นเป็นความรู้สึกที่อยู่กับตัวเองมานานแสนนานแล้ว แต่เจอคนที่เขียนวลีประมาณนี้ออกมาเป็นคำเมื่อไม่เกิน 6-7 ปีที่แล้ว (จำไม่ได้ว่าใคร แต่อยากขอบคุณ)
ส่วนตัวมองว่าค่า X ในวลีดังกล่าว ลดลงขึ้นทุกวัน
มองตัวเองในวันนี้ วันที่อายุ 26 ปี ก็เริ่มรู้สึกว่าคนไม่ได้มองหาศักยภาพในตัวเราอีกต่อไป แต่ดูว่าเราผ่านความสำเร็จอะไรมาบ้าง
และสำหรับคนรุ่นหลังจากนี้อีก อาจจะเจอว่าเลขนี้ลดลงมาเหลือ 25-24-23… ไปเรื่อยๆ ซึ่งก็พอเข้าใจได้ในแง่ที่ว่า บนโลกที่เวลาไหลไม่ย้อนกลับ และผู้คนต่างโหยหวนที่จะครอบครองทรัพยากรที่มีจำกัด การเริ่มก่อนก็ได้เปรียบอย่างเห็นได้ชัด
แต่เราจะอยากอยู่กันแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า เพราะส่วนตัวคิดว่านี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี
ขออนุญาตแทงไว้ว่า วันใดที่เลขนี้แตะ 22 (เท่ากับอายุของเด็กจบใหม่ป.ตรี ในหลักสูตรสี่ปี) ความระส่ำระส่ายจะเกิดขึ้นในสถาบันอุดมศึกษา บีบให้สถาบันที่ผลิตเด็กที่ “สำเร็จแล้ว” อยู่รอดต่อไปได้ และสุดท้ายจะกลายเป็นแหล่งผลิต “มนุษย์โรงงาน” สมัยใหม่
ความระส่ำระส่ายนี้จะสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างออกไปเรื่อยๆ นักเรียนมัธยมจะแก่งแย่งแข่งขันเข้าไป “ผลิตตัวเองเป็นมนุษย์โรงงาน” ผ่านระบบอุดมศึกษา เฉพาะนักเรียนที่ “สำเร็จที่สุด” ถึงจะได้รับอภิสิทธิ์ดังกล่าว โดมิโน่ล้มต่อไปเรื่อยๆ จนถึงประถม อนุบาล พรีคินเดอร์การ์เตน
ไม่คิดว่าจะเป็นผลดีกับใครนอกจากระบบอุตสาหกรรม พ่อแม่ที่เชื่อในวิถีมอนเตสซอรี่ได้ อาจจะเหลือเพียงพ่อแม่ที่ไม่ต้องต่อสู้แย่งชิงทรัพยากรของโลกนี้มาแล้ว (และพร้อมจะส่งต่อ wealth ให้รุ่นลูกไป grow ต่อ)
Leave a Reply