ภาพประกอบถ่ายวันที่ 27 ธันวาคม 2560 — ฝนตกระดับที่น่าเดินตาก อากาศเย็นระดับที่น่าเดินเล่น เป็นวันที่มีความสุขแค่ได้เดินโง่ๆ
สองพันสิบเจ็ดเป็นปีที่ซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเราจะเปรียบมันเป็นเพลง เราอยากเปรียบมันเป็น Dadaville ของ Garry Carpenter
ตัวเอง
- ภาระปีสองเยอะกว่าที่คิด รู้สึกอยากผ่านมันไปให้ได้แบบสวยๆ
- รู้ว่ายาก และแบกภาระความกดดันมากขึ้นด้วย
- พบว่างานบางงานที่ตั้งใจทำแล้วทำสนุก จะจริงจังจนลืมงานที่ไม่อยากทำ
- ความสนุกเป็น factor ที่สำคัญ
- และกับงานเหล่านี้ถ้าออกมาผิดหวัง เราไม่ลังเลที่จะร้องไห้ แม้แต่กับ factor ที่คุมไม่ได้
- เราอยากให้งานที่เราอยากทำจริงๆ ออกมาดีอ่ะแหละ
- เป็นปีที่ติสต์ขึ้น ฟังเพลงเยอะขึ้น เข้าหอศิลป์บ่อยขึ้น
- อยากไป Louvre, อยากไปดูงานของ Claude Monet
- พฤติกรรมในชีวิตหลายอย่างเปลี่ยนไป มีทั้งแง่ดีและไม่ดี
- กินแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- อันนี้เป็นผลมาจาก Gastronomy Trip ปลายปี 2016
- กินหลากหลายขึ้น เพราะพยายามลองอาหารหลากหลาย palette ตอนนี้กำลังจะมาหยุดอยู่กับอาหารไทย
- มีโอกาสทำเพจเกาะกันกิน เขียนเล่นๆ แต่เขียนแต่ละทีจริงจังกับการรีวิว เรารู้สึกว่าการถ่ายทอด perception/attitude ต่ออาหารของเราหนึ่งจานออกมาเป็นคำนี่ค่อนข้างยากนะ
- นอกจากนั้นยังดื่มชาหนักขึ้นมากๆ (ปกติไม่เรื่องมาก — Lipton Yellow Label คือจบ ส่วนตอนนี้กำลังหาวันว่างๆ ไป Ronnefeldt 5555555)
- ไม่ใช่ว่าปีหน้าจะกินให้น้อยลง แต่เป็นกินให้เยอะขึ้น ทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ ราคาที่ต้องจ่ายอาจจะสูงแต่เราเชื่อว่าเราจะสามารถยกระดับลิ้นของตัวเองให้กลายเป็นคน “กินเป็น” ไม่ใช่คน “เป็นแต่กิน”
- อ่านหนังสืออีกครั้ง
- เป็นผลพลอยได้จากการที่มีคนเข้ามาในชีวิตช่วงกลางปี
- ตั้งใจจะอ่านให้มากขึ้นอีก ใน field ที่หลากหลายมากขึ้นอีก ในขณะเดียวกันกับสายอาชีพตัวเองก็จะต้องหลักและลึกขึ้นอีก
- นั่นหมายถึงงานปริมาณมหาศาล
- ทุกวันนี้ก็เสพการอ่านอยู่นะ แค่ไม่ได้อยู่ในรูปของหนังสือ (เป็น Social network stream แทน) ก็หวังว่าจะ “เปลี่ยน” มาอ่านหนังสือได้เยอะกว่านี้
- ขายของ: My Reading List เจอหนังสือน่าสนใจมาชวนอ่านได้จ้า
- กินแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ร้องไห้บ่อยขึ้นในเรื่องเดิมๆ ช่วงมาถี่คือถี่ทุกว้น ช่วงไม่ถี่คือเดือนละครั้งสองครั้ง
- หลายครั้งอยากร้องไห้ออกมาดื้อๆ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แค่อยากร้องไห้
การงาน
- การงานปลายปีหนึ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนสักเท่าไหร่ เรื่องเดียวที่ควรพูดคือเกรดเทอมที่แล้วทำได้เลวร้ายมาก
- ปีสองเทอมหนึ่งเกรดออกก่อนสิ้นปีพอดี! ทำได้ดี แต่ยังดีไม่สุด ตัวที่หวังไว้สองตัวคือ ADT และ Discrete ก็ทำได้เกินความคาดหมาย บวกกับวิชายิบย่อยแล้วเทอมนี้เอา A ไปเก้าหน่วยกิต 🙂
- งานที่ทำแล้วสนุกจริงๆ คือทำทีเอ เป็นประสบการณ์ในชีวิตที่ค่อนข้างอยากพูด
- เรารู้กันดีว่าเด็กจำนวนมากเข้าวิศวะคอมมาเพราะเห็นเป็นสายงานที่เงินดี ต้องการเยอะ เด็กจำนวนมากจับคอมเขียนรายงานตัดวิดีโอแล้วก็คิดว่าตัวเองสามารถเรียนสายนี้ได้ คำถามคือเราจะปลูกฝัง passion และความสนุกที่มีให้กับเด็กกลุ่มนี้ได้ยังไง
- สำหรับเรางานทีเอคืองานสอน ออกแล็บชีทนั่นแค่ติ่งเดียวที่อยากทำ
- แต่สอนในที่นี้ไม่ใช่สอนเขียนโปรแกรม อันนั้นคือสิ่งที่อาจารย์ทำ
- สิ่งที่เราอยากสอนคือ systematic thinking และสอนให้เชื่อมั่นในตัวเอง
- คำถามเดียวที่ถามตัวเองทุกครั้งก่อนไปเจอน้องๆ คือ “เราจะทำให้น้องมั่นใจในตัวเองได้ยังไงดี”
- เป็นคำถามที่ง่ายและคำถามที่ยาก เราเริ่มจากการตอบน้องว่า “ทำดีครับ” สำหรับทุกคำตอบจากคำถามที่เราถาม
- “แล็บชีทถึงไหนแล้ว” “เสร็จแล้วครับ” “เยี่ยม ทำดีครับ”
- “แล็บชีทถึงไหนแล้ว” “ยังไม่ได้เริ่มค่ะ” “เยี่ยม ทำดีครับ (แปลว่าทำอย่างอื่นอยู่ แบ่งเวลาดีๆ นะ)”
- เราได้แรงบันดาลใจมาจากคลาสนึงที่ยุโรป เด็กเขียนคำว่า purple เป็น purpol สื่งที่ครูบอกเด็กคือ “ถูก เขียนแบบนั้นก็อ่านว่าเพอร์เพิล แต่น่าเสียดายที่คนเมื่อก่อนตกลงกันไว้แล้วว่าจะเขียนว่า purple และครูขอโทษที่ช่วยอะไรหนูไม่ได้เลย”
- เจ๋งมาก เด็กก็รู้ว่าต้องเขียน purple แต่ความมั่นใจไม่หายอ่ะ
- เป็นคำถามที่ง่ายและคำถามที่ยาก เราเริ่มจากการตอบน้องว่า “ทำดีครับ” สำหรับทุกคำตอบจากคำถามที่เราถาม
- เราได้แต่หวังว่าการทำแบบนี้จะเสริมให้น้องกล้าทำอะไรมากขึ้น ก็หวังว่าในอะไรหลายๆ อย่าง เราจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะสร้าง ecosystem ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ที่ดีได้
- สภาพสังคมไม่ใช่อะไรที่สร้างได้ในวันเดียว แต่เราหวังว่าเราจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างมัน ทั้งจากตอนทำทีเอ และตอนอื่น
เพื่อน
- เรา bullshit น้อยกว่าปีก่อนมาก ขอบคุณความเป็นเหตุเป็นผลที่เพิ่มขึ้น ขอบคุณตัวเองที่โตขึ้นบ้าง
- ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่อยู่ด้วยกันอยู่ ขอบคุณที่ช่วยให้ผ่านหลายๆ อย่างไปได้
- คือเขียนสั้นอ่ะ แต่ขอบคุณจริงๆ ทุกครั้งที่ยื่นทิชชู่ ทุกครั้งที่โอบไหล่ ทุกครั้งที่เราขอบีบมือ ทุกครั้งที่เมสเสจไปหา
- คิดถึงเพื่อนที่สาธิตนะ
หัวใจ
- มีเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจเต้นถึงสองครั้งในรอบปี นับว่าเยอะมาก
- ครั้งแรกเป็นฝ่ายอยู่เงียบๆ แล้วเค้าบอกชอบเอง
- เราจะถือว่าเราเขียนให้เธออ่านอยู่แล้วกัน
- เป็นประสบการณ์ที่วิเศษมาก เราคุยกันได้ในเรื่องที่เราอยากคุย ศิลปะ สังคม วัฒนธรรม ปรัชญา หนังสือ
- เราร้องไห้ เราดีใจมากที่เราเจอคนแบบนี้ ในฐานะเนิร์ดที่เก็บตัวอยู่กับอะไรก็ไม่รู้ เราดีใจที่ได้เจอเนิร์ดเหมือนกัน ถึงเราจะร้องไห้เหมือนกันเพราะเรารู้สึกว่าเธอควรจะเจอคนที่ดีกว่าเรา แต่เราไม่อยากเสียเธอไป
- วันที่เราไปเดทกัน เราคุยอะไรหลายๆ อย่าง เราเดินคิโนะคุนิยะ เธอชี้หนังสือพ่อรวยสอนลูก เราแซ็วว่าโรเบิร์ตล้มละลายไปแล้วนะ เราเดินดูหนังสือ เธอช่วยเราเลือกหนังสือ มันคือเดทในฝันเลยแหละ
- เธอทำให้เราได้กลับมาอ่านหนังสืออีกรอบ ขอบคุณมากนะ บล็อกรีวิวหนังสือทั้งหลายคงจะไม่มีถ้าเราไม่เคยคุยกัน
- เรายังไปบันไดเลื่อนตรงนั้นที่สนามกีฬาฯ เรายังคิดถึงเสียงของเธอ และไม่ใช่แค่เสียงหรอก เราคิดถึงเธอ ทุกอย่างที่เป็นเธอ
- แม้เราจะจากกันไม่ดีเท่าไหร่ แต่ภาพที่เราเก็บถึงเธอเป็นภาพที่อบอุ่น ขอบคุณที่ครั้งนึงเคยรู้จักกันนะ เราดีใจที่เคยรู้จักเธอ
- และถ้าเธอเห็น Faulkner เล่มนั้นบนชั้น เราอยากให้เธอนึกถึงเราในฐานะเพื่อนคนนึงนะ
- ครั้งที่สองเป็นความชอบที่เราเป็นฝ่ายรู้สึกเอง
- เรา admire คนที่เก่ง ชอบคนที่ร่าเริง และอยากอยู่กับคนที่จิตใจดี
- คนที่เราชอบเป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกว่าเค้าเก่ง มีความมุ่งมั่น เราพยายามหาทางสนับสนุนเค้าอยู่บ้าง
- จนวันที่มีโอกาสได้คุยกัน เราพบว่าในวันที่เราเหนื่อยและเครียด เค้าทำให้เรามีพลังอีกครั้ง
- คนอีกแบบที่เราอยากอยู่ด้วยคือคนที่พร้อมเติมไฟให้กัน วันไหนคุณหมดไฟเราเติมให้คุณ วันไหนเราหมดไฟคุณมาเติมให้เราบ้าง
- เราพบว่าการที่คนคนนึงจะมีพลังบวก และความสดใสได้ขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย (อย่างน้อยก็ในมุมของเรา) และเราอยากทำยังไงก็ได้ให้เค้าสามารถรักษาพลังนี้ไว้ได้เรื่อยๆ
- เราตัดสินใจบอกชอบเพราะเราอยากขอบคุณที่เติมพลังให้กัน เราไม่อยากคิดว่ามันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ เราแค่อยากบอกว่าขอบคุณที่ครั้งนึงเปลี่ยนเราได้ เรายิ้มเก่งขึ้นมาก
- นี่คือรักครั้งแรกที่เราไม่ร้องไห้ในความรัก ทุกครั้งที่ผ่านมาเราร้องไห้ เราชอบคนที่เกินเอื้อม เราชอบคนที่เป็นไปไม่ได้ แต่กับครั้งนี้ที่รู้สึกชอบ มันมีแต่รอยยิ้ม ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าความสบายใจจริงๆ มันเป็นยังไง
- และการที่เราชอบใครสักคนก็เหมือนกับชอบดอกไม้ริมทาง จะตัดมาปักแจกันตัวเองก็ได้ หรือขอดูดอกไม้ค่อยๆ เติบโตห่างๆ ก็ได้
- ซึ่งเราขอเลือกแบบหลัง
- สรุปแล้วทั้งสองครั้ง แม้เราจะไม่ได้ “เป็นแฟน” เลย แต่สำหรับเรามัน worthwhile มากๆ เรื่องเป็นแฟนมันไม่สำคัญแล้ว
- ถึงกระนั้นก็ยังคงรอวันที่จะมีใครพร้อมหยุดอยู่กับเราอย่างใจจดใจจ่อ 🙂
2017 Resolution: A Better World
เรารู้สึกเหมือนสิ่งที่เราทำเป็นแค่น้ำหยดหนึ่งในมหาสมุทร แต่อย่าลืมว่ามหาสมุทรจะไม่เหมือนเดิมถ้าขาดน้ำหยดนั้น
แม่ชีเทเรซ่า
เราตั้งปณิธานไว้ในปี 2016 ว่าอยากสร้างโลกที่ดีขึ้นในปีนี้
เราบริจาคเงินเข้าองค์กรการกุศลบ้าง (ไม่บ่อย และช่วงหลังมาไม่ได้บริจาคละ) พยายามแคร์และเข้าใจความรู้สึกคนรอบตัวมากขึ้น (ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ได้ทำนะ) คิดว่าโลกที่มีเรากับไม่มีเราน่าจะต่างกันอยู่มั้ง
มิตรสหายหลายๆ ท่านมาปรึกษาปัญหาชีวิตด้วย ไม่ใช่คนที่ให้คำตอบกับทุกคำถาม หรือแนะนำได้ทุกเรื่อง แต่ลึกๆ แล้วดีใจมากที่เราเป็น trusted zone ของใครหลายๆ คน
2018 Resolution
- Mini Project (ทำ TransitTH ให้เสร็จ)
- เรียน ML ให้ครบแบบเอาไปใช้จริงๆ ได้
- อ่านหนังสือให้เยอะขึ้น ดูหนังให้เยอะขึ้น
- ทำให้โลกนี้ และคนรอบข้างดีขึ้นต่อไป
- อยากเห็นทุกคนมีความสุข 🙂
Thanks
หลายคนน่าจะรู้สึกแปลกใจที่ท่อน Thanks ยาวกว่าท่อนอื่น เรารู้สึกคำขอบคุณคือวิธีแสดงความเคารพต่อคนที่เรารู้จักได้ดีที่สุด
- ขอบคุณหอศิลป์กรุงเทพ, สำนักบริหารศิลปวัฒนธรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, วงดุริยางค์ฟิลฮาร์โมนิกแห่งประเทศไทย, วงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ, BBC Symphony Orchestra ที่เป็นแหล่งพักพิงยามเราย่ำแย่ ดนตรีและงานศิลป์ช่วยเราได้มากๆ จริงๆ
- ขอบคุณสยามพารากอน เซนทรัลเวิล์ด ช็อปทไวนิงส์ คิโนะคุนิยะ หอศิลป์กรุงเทพ บีทีเอสสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ห้อง 201 เก้าอี้ตรงนั้นในร้านแซม และม้านั่งตึกภาคสองตัวนั้น ที่เป็นที่สร้างความทรงจำหลายๆ อย่าง
- ขอบคุณอาจารย์ CPE ทุกท่านที่ให้ความเอื้ออารีในหลายๆ ด้าน หวังว่าจะได้ทำงานกับอาจารย์เจ๋งๆ เยอะๆ นะครับ 😀
- ขอบคุณเฌอปราง (และหลายๆ คน) สำหรับ passion ว่าถ้าตั้งใจทำอะไรก็จะทำได้จริงๆ
- ขอบคุณ CPE31 เป็นการพิเศษ พี่ไม่ได้มาสอนเราอย่างเดียว พี่มาเรียนรู้จากเราด้วย และพี่ได้เรียนไปเยอะมากๆ เลย
- ขอบคุณเพื่อนหลายๆ คน
- มิตรสหายในโซเชียลเน็ตเวิร์คทั้งหลาย
- ขอบคุณที่ยังมีมิตรจิตรอันดีและเกื้อกูลกันมาโดยตลอดครับ
- ห่างหายไปบ้าง หวังว่าจะยังได้ keep in touch กับทุกคนอยู่นะครับ
- เพื่อนที่สาธิต
- เพื่อนที่สาธิตหลายๆ คนที่ยังติดต่อกัน ขอบคุณที่ยังมีมิตรจิตอันดีเสมอมา
- พี่หมอทั้งหลายที่เคยคุยด้วยบ่อยๆ ถึงจะห่างหายเพราะยุ่งๆ กัน แต่คิดถึงนะ
- แคตช์มีอิฟยูแคน ขอบคุณสำหรับที่ปล่อย dark memes นะครับ
- เพื่อนที่ภาค
- ขอบคุณ CPE ทุกคนสำหรับงานหลายๆ งาน ฟัคอัพไปบ้างก็ขออภัย
- กลุ่มที่อยู่ด้วยกันบ่อยๆ — อ้น เบนซ์ มอร์แกน ไข่ ขอบคุณมาก ฟัคอัพไปบ้างก็ขออภัย รักพวกมึงทุกคน
- เพื่อนทั้งหลายที่เราสนิทใจมากพอปล่อยมาเพ่นพ่านในแอคลับทั้งหลาย — ขอบคุณที่เป็นโซนอุ่นๆ ให้กันอยู่ตลอด รู้จักเรามากขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะ
- แก เออ แกนั่นแหละ
- ยกให้พารากราฟนึงเลยโว้ยยยย ยาวกว่าชาวบ้านด้วยโว้ยยยย
- แก MVP เราทั้งปีนี้เลย ไม่รู้ควรจะขอบคุณแบบไหนว่ะ
- พิมพ์มาทั้งหน้าทั้งเรื่องความรักเรื่องนอยด์ไม่น้ำตาซึมนะ มาซึมตรงนี้ว่ะ
- ขอบคุณ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงถึงจะพอว่ะ ถถถถถถถถถถ
- (เขียนไม่ถูกจนต้องทักหลังไมค์ไปหา เผื่อจะเขียนง่ายขึ้น ไปย้อนอ่านเองแล้วกันนะ)
- ปีหน้าฝากด้วยนะ จะบอกแบบนี้ทุกปี
- ดีใจเสมอที่วันนั้นตัดสินใจเดินไปทัก 🙂
- มิตรสหายในโซเชียลเน็ตเวิร์คทั้งหลาย
- ขอบคุณคนทั้งสองคนที่ทำให้เราใจเต้น
- ถึงคนแรก: เราไม่คิดว่าเธอจะอ่านแหละ แต่ถ้าเธออ่าน ขอบคุณมาก เราคงอยู่ห่างออกจากกันไปมากขึ้นเรื่อยๆ ขอให้เธอมีความสุขในที่ตรงนั้นของเธอ 🙂
- ถึงคนที่สอง: หวังว่าจะอ่าน Me Before You จบนะ จงใจเลือกเล่มนั้นเพราะตอนจบเลย 🙂 คนที่อยากเห็นทุกคนมีความสุขคือคนที่สมควรได้รับความสุขที่สุดแล้วจริงๆ ขอบคุณสำหรับความสุขที่ให้มานะ
- บอกทั้งสองคนอีกรอบ: น่าจะรู้กันเนอะว่าเราไม่ชอบพิมพ์หน้า 🙂 ยกเว้นจะยิ้มจริงๆ อยากให้รู้ว่าทำให้เรายิ้มอยู่นะ
- ขอบคุณพ่อแม่ ห่างจากบ้านขึ้นเยอะเรื่อยๆ แต่บ้านก็เป็นที่อุ่นใจเสมอ 🙂
ขอบคุณทุกอย่างที่ประกอบรวมกันเป็น 2017
ขอให้ 2018 เป็นปีที่ดี 🙂
Leave a Reply