สารภาพกันตามตรงคือเพิ่งมีความรักอีกครั้ง และก็เพิ่งสารภาพไป, รู้สึกที่ผ่านมาตัวเองผิดพลาดที่ไม่ได้สังเกตความรักอย่างใจจดใจจ่อมากขึ้น
เพื่อนคนหนึ่งเคยบอกว่าเราเป็นคนถามหานิยามเยอะมากๆ ดังนั้นคงไม่ผิดสักเท่าไหร่ที่อย่างน้อยจะพยายามหานิยาม (?) ให้กับมันว่าสุดท้ายแล้วเราต้องการอะไรกันแน่
วิธีการเขียนบล็อกนี้ก็ประหลาดดี, หลับตาแล้วจินตนาการว่าเรากับคุณจะไปอยู่ตรงไหนของกันและกันในชีวิตบ้าง, ก็กล้าพูดว่าเป็นบล็อกที่ยิ้มตอนเขียนมากที่สุด
แอพพริชิเอชัน
ไม่ค่อยอยากไทยคำอังกฤษคำ, แต่ความสัมพันธ์ที่ดีคือความสัมพันธ์ที่เราต่าง appreciate การกระทำของกันและกัน
การ appreciate ไม่ได้อยู่แค่เราดีใจที่มีคน appreciate เรา, แต่เป็นการที่ได้ appreciate การมีอยู่ของทั้งอีกฝ่าย และทั้งความสัมพันธ์ไปพร้อมๆ กัน
เรื่องเล็กมากหรือใหญ่มากก็ตามแต่ ถ้าเรายินดีกับการกระทำของอีกคนหนึ่งได้ก็คงจะดีมากๆ–คำขอบคุณและความ appreciate ที่อยากรู้สึกว่ามีให้กันและกัน อาจจะเป็นแค่การดึงมือมาจับ หรือไปจนถึงกระทั่งการสนับสนุนเราทางอารมณ์ในวันที่เราไม่โอเคมากๆ
เรารู้ตัวว่าเราไม่ใช่คนเห็นค่าตัวเองเท่าที่ควร เราคิดว่าความสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้เรา appreciate การมีอยู่ของเรา ทั้งเมื่อเราทำอะไรแล้วเรา appreciate ว่าเราดีใจที่ได้ทำให้คุณ และทั้งเมื่อคุณทำอะไรให้เราแล้วเรา appreciate ว่าเรามีค่าในสายคาคุณนะ
พูดง่ายๆ คืออยากรู้สึกเหมือนมีคนขอบคุณเรา และอยากรู้สึกเหมือนขอบคุณคนคนนั้นไปพร้อมกันแหละ
สเปซ, อินทิแมซี, ไทม์
สเปซมีสองแบบ–สเปซที่มีกัน และสเปซที่ไม่ได้ใช้เวลาด้วยกัน
สเปซอย่างแรกคงไม่จำเป็นต้องพูดถึงอะไรมาก, การมีกันอยู่ใกล้ๆ มันก็รู้สึกปลอดภัยดี และระยะประชิด (intimacy) มันก็ทำให้เรารู้สึกว่าคุณยังอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ไปไหน
สเปซอย่างหลังอาจจะน่ากลัวไปหน่อย, แต่จริงๆ การห่างเพื่อกลับมาเจอกัน อย่างน้อยก็คือการพักผ่อนที่ดีที่จะเก็บความคิดถึงไว้เป็นพลังตอนเจอกันอีกครั้งหนึ่ง และเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอด หรือคุยกันตลอดหรอก, เราอยากอยู่ตรงนี้ในเวลาที่คุณต้องการเรา และเราก็อยากให้คุณอยู่ตรงนี้ในเวลาที่เราต้องการคุณเหมือนกัน
ดีมานด์ และคอมมิตเมนต์
รักคือการให้โดยไม่หวังอะไร[citation needed]
จริงๆ แล้วความรักเป็นอะไรที่ถ้าจะ long run ในแง่ของความสัมพันธ์แล้ว ยังไงก็ต้อง mutual ไม่ใช่มีเพียงฝ่ายเดียวให้และฝ่ายเดียวรับ เพราะความสัมพันธ์คือการที่สองฝ่ายตกลงปลงใจที่จะ commit ด้วยกัน
ฟังดูน่ากลัวไปหน่อย แต่จริงๆ เป็นงี้แหละ–ทุกครั้งที่เราให้อะไร เราก็เหมือนให้ commitment ที่เรามีกับความสัมพันธ์ออกไปด้วยเหมือนกัน วันหนึ่งถ้าให้จนไม่ได้รับ พลังจาก commitment ที่มีในตัวก็คงจะหมด ดังนั้นการรับอะไรกลับมาก็คือการรับ commitment กลับมาเพื่อพลังจะอยู่ต่อในความสัมพันธ์นั้นเหมือนกัน
ดังนั้นถ้าจะพูดว่ารักคือการ demand มากกว่าการ request ก็คงไม่ผิดนัก เป็นความคาดหวังที่อาจจะรู้สึกว่าความสัมพันธ์มีจุดหมายเพื่อเติมเต็มมากกว่ารู้สึกว่าถ้าเติมเต็มได้ก็คงจะดี
อนาคตที่มั่นคง
อืม แค่นั้นแหละ, apply ได้ตั้งแต่วินัยทางการเงิน การวางแผนเวลา จนถึงการวางแผนอนาคตตัวเองนี่แหละ
อยากเมคชัวร์ว่าถ้าเป็นชีวิตที่เราสองคนมีส่วนทับซ้อนกันมากขึ้นแล้ว มันจะยังคงยั่งยืน
จริงๆ พอมานั่งเขียนอะไรแบบนี้แล้วอ่านอีกรอบ ก็พบว่าหัวข้อหลักๆ ที่คิดว่าควรมีในความสัมพันธ์ เช่นความเข้าใจ ความเห็นใจ หรืออะไรพวกนี้นี่ แทบไม่ได้หยิบมาพูดถึงเลย แต่อาจจะเป็นเพราะกว่าจะมีอะไรตามหัวข้อที่เขียนๆ มา ก็คงต้องมีหัวข้อหลักๆ ที่รู้สึกว่าควรมีก่อนหมดเลยอยู่แล้ว
ขอให้เป็นแบบที่หวังแล้วกัน 🙂
Leave a Reply