Tag: love

  • ความคิดและอารมณ์ ณ (ปลาย)มิถุนายน

    มีหลายเรื่องที่อยากเขียนสั้นๆ จับมารวมกันไว้ดีกว่า

    Legalise แม่งให้หมด?

    เคยคุยกับมิตรสหายท่านหนึ่งเรื่องการ legalise ทุกอย่าง เช่นหวย และการขายบริการ
    ด้วยเหตุผลว่าในเมื่อคนก็เสพกันอย่างผิดกฏหมายมาตลอด ทำไมไม่ทำให้มันถูก

    รัฐได้ค่าสัมปทาน ทุกอย่างคอนโทรลได้ เงินหมุนอย่างถูกกฏหมาย และรัฐบาลเอาไปคิดเป็น GDP ประเทศได้เกร๋ๆ

    แต่พอมาช่วงนี้มีข่าว legalise ยาบ้า ทำไมกลับรู้สึกว่า factor พวกนี้มันไม่ทำให้การ legalise ยาบ้าดูดีขึ้นมา

    ถ้าอ้างว่าเพราะสุขภาพ งั้นการเงินที่ขัดข้องจากการทำการพนัน หรือโรคติดต่อที่มีโอกาสได้จากการซื้อบริการล่ะ?

    มิตรสหายท่านเดิมบอกว่า สุดท้ายแล้วเหตุผลของการไม่ legalise อาจเพราะมันเป็นหนึ่งในวิธีจำกัดให้มันอยู่ในวงแคบก็เป็นได้

    แล้วแคบแค่ไหนถึงจะพอ?

    แสดงออก != ไม่รัก?

    อ่านเพจ Anti SOTUS แล้วมีนักศึกษา (อาจจะแกนนำ) ของมหาวิทยาลัยตัวเองออกมาประณามน้องที่เอาเรื่องภายในมาเปิดเผย (เอาเรื่องรับน้องมาแฉ) ว่าไม่รักสถาบัน

    ก็เลยนึกถึงตัวเองตอนทำหนังสือรุ่นเบาๆ

    มาถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเบาๆ ว่าโรงเรียนเรามันควรดีขึ้นกว่านี้ เราไม่รู้ว่าความ satire ทั้งหลายที่ทำลงไปในหนังสือรุ่นมันจะ effective กับการเปลี่ยนแปลงแค่ไหน

    ย้อนกลับไปที่ Sotus การเอาออกมาพูดคุยให้เปิดเผย ไม่ใช่เรื่องใต้หลืบ มันช่วยให้เกิดการถกเถียง เราเชื่อว่าการเถียงกันก็เหมือนกับการเกา – ถ้ามันถูกจุด มันช่วยแก้ปัญหา
    และการออกมาพูดก็ไม่ได้หมายถึงว่าเราไม่รัก หรือไม่อยากรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศของสถาบันนั้นๆ

    แต่เหมือนเดิมแหละ เรายังตอบไม่ได้ว่าสิ่งที่เราทำวันนั้นมันช่วยไหม มันถูกไหม
    แต่อะไรคือถูก? ถ้าเราทำเพราะอยากเห็นอะไรมันเปลี่ยนจริงๆ ล่ะ?

    จะว่าอวยคมตัวเองก็ได้ แต่คนที่ไล่ monitor วิกิโรงเรียนกับคนที่ satire โรงเรียนลงหนังสือรุ่นก็คนเดียวกันแหละ

    แต่เหมือนที่บอกแหละ เราอาจผิดจริงๆ ก็ได้

    วินัย (ในการอ่าน)

    นั่งเขียน reading list แล้วก็พบว่าตัวเองดองหนังสือเยอะมาก

    จะพยายามมีวินัยกว่านี้

    Sc Ti V Cr Mn Fe Co Ni Cu Zn

    กลัวการเปลี่ยนแปลง (transition) อยู่เรื่อยๆ
    เอาเข้าจริงถึงบอกว่าอยากจะเปิดโลกใหม่แค่ไหน การอยู่กับที่เก่าๆ อุ่นใจดีเหมือนกัน

    เล่นแท็ก

    นานๆ ทีจะเล่นแท็กในเฟซบุ๊ค
    ก็ถือว่าเป็นวิธีการส่องกระจกตัวเองและทบทวนความสัมพันธ์ที่ดี

    I’ll live my life | How memorable are things

    ได้ดูถ้าแมวตัวนั้นหายไปจากโลกนี้ (ชื่ออังกฤษมันชื่อ If Cats ไม่ได้มีคำว่าตัวนั้นเลย)
    ตั้งใจว่าจะพยายามใช้ชีวิตให้มากกว่านี้ (หน้าอย่างมึงก็ได้แค่ตั้งใจต่อไป)

    หลังจากนั้นไม่นานไปเดินสยาม (เพื่อไปเดินสยาม) พบความจริงที่น่าหดหู่อยู่สองอย่าง

    • ร้าน Teddy Bear ที่สยามสแควร์ปิดไปแล้ว
    • ร้านไอติมโยเกิร์ตรูปปลาหลัง Digital Gateway (เดี๋ยวนี้มันชื่ออะไรวะ Centre Point?) ก็ปิดไปแล้วเหมือนกัน

    มีความทรงจำดีๆ กับทั้งสองร้านข้างต้นมาก

    แค่มันหายไปเรายังรู้สึกไม่ดีและเศร้าเลย (วันนั้นเดินไม่สนุกเลย)
    แล้วถ้าความทรงจำเก่าๆ มันหายไปหมดล่ะ

    แย่น่าดู

  • ห่าง, เหมือนเดิม

    วันนี้สองเราห่างกัน
    โคจรออกจากวงเดิมกันไป

    เธอมีทางของเธอ ฉันมีทางของฉัน
    เราไม่เหมือนเดิม ส่วนที่เคยอินเทอร์เซกต์กันมันเปลี่ยน

    เราพบเจออะไรใหม่ๆ เวลาร่วมที่เราสองคนเคยใช้ด้วยกันก็เปลี่ยน

    สังคมเปลี่ยน อยู่กับสหายมากขึ้น
    เฮฮา หัวเราะ ทั้งเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่
    บางทีอาจหวั่นไหวว่าหัวใจเปลี่ยนไปไหม

    เธอคนนั้นที่ดูเข้าใจ
    เขาคนนั้นที่ดูใจดี
    หรือใจเราแปรเปลี่ยนแล้ว

    พระอาทิตย์ตก ลาจากมิตร
    กลับมานอนเงียบๆ ห้องสี่เหลี่ยมจตุรัส

    ก่อนจะพบว่าในใจยามอยู่คนเดียว คนที่อยากอยู่ด้วยก็คือเธอ
    ความหวั่นไหว ใจอ่อน ก่อตัวจากความเหงา
    ความเหงาก่อตัวเมื่อไม่มีเธอ

    สุดท้ายความอ่อนแอของหัวใจก็เกิดจากความอยากอยู่กับใคร
    แต่สุดท้ายเมื่อมองดีๆ คนที่อยากอยู่ด้วยก็เป็นคนเดิม

    แล้วเธอล่ะ
    รู้สึกเหมือนเดิมไหม